วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โรคของปลาสวยงาม
1.  โรคโปรโตซัว
    
ลักษณะอาการ   ปลาที่ป่วยมีลักษณะครีบเปื่อย  หรือกางออกไม่เต็มที่  ผิวตัวซีด  และมีลักษณะคล้ายผิวถลอก  หรือตกเลือดเป็นแห่งๆ  การว่ายน้ำของปลาผิดปกติ  โดยว่ายน้ำแฉลบเอาข้างตัวถูกับพื้นก้นตู้  พื้นอ่างหรือก้อนหินในตู้ปลา  บางครั้งปลาอาจจะมีจุดขาวตามลำตัวและครีบ
     สาเหตุของโรค   เกิดจากเชื้อโปรโตซัวจำพวกเห็บระฆัง(Trichodina)  เชื้ออิ๊ก (Ichthyophthirius)  เชื้อไซพริเดีย(Scyphidia)  เชื้อเอพีโอโซมา (Apiosoma)
     การรักษา   ใช้น้ำยาฟอร์มาลีนแช่ปลาในตู้อัตรา  25-30  พีพีเอ็ม  (2.5-3.0  ซีซี / น้ำ 100  ลิตร)  แช่ไว้นาน  2-3  วัน  เพียงครั้งเดียว  แต่ถ้าปลาป่วยเป็นโรคจุดขาว(โรคอิ๊ก)  จะต้องใส่น้ำยาฟอร์มาลีนซ้ำอีก  2-3  ครั้ง  หลังจากการเปลี่ยนน้ำในอัตราความเข้มข้นเท่าเดิม  โดยทำห่างกันครั้งละ  2-3  วัน
   
2.  โรคปลิงใส    
     ลักษณะอาการ   ปลาที่ติดปรสิตปลิงใสจะมีอาการซึม  เบื่ออาหาร  และมีการว่ายน้ำแฉลบเอาข้างตัวถูกับพื้นตู้เป็นครั้งคราว  ครีบของปลาโดยทั่วไปยังมีลักษณะปกติ
     ลักษณะของโรค  เกิดจากปรสิตปลิงใส  (Monogene)
     การรักษา  ใช้น้ำยาฟอร์มาลีนแช่ปลาในตู้ในอัตรา  40-45  พีพีเอ็ม (4.0-4.5  ซีซี / น้ำ 100  ลิตร)  แช่ไว้นาน 2-3 วัน  ถ้าเป็นปลาขนาดเล็กให้ดูแลปลาอย่างใกล้ชิดใน 1-2 ชั่วโมงแรกหลังใส่สารเคมี  เพราะปลาที่เล็กมากอาจจะทนต่อพิษของฟอร์มาลีนไม่ไหว  ถ้าพบลูกปลามีอาการเมายาให้รีบเปลี่ยนน้ำครึ่งหนึ่งทันที
   
3.  โรคเห็บปลาและหนอนสมอ
     ลักษณะอาการ  ปลาที่มีปรสิตเกาะว่ายน้ำแบบชักกระตุก  มีอาการสะดุ้ง  ว่ายน้ำกระโดด  ถูตัวกับข้างตู้หรือก้อนหิน  ปลาที่ป่วยเรื้อรังจะมีแผลตกเลือกเป็นจ้ำตามลำตัว  แผลอาจจะขยายใหญ่มากเช่นที่พบในปลาคาร์พ
     สาเหตุของโรค  เกิดจากปรสิตเห็บปลา(Argulus)  และหนอนสมอ (Lerneae) ซึ่งเป็นปรสิตเปลือกแข็งขนาดใหญ่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (ประมาณ 0.3-0.5 ซม.)
     การรักษา  ใช้สารเคมีดิพเทอเร็กซ์หรือซินเทอเร็กซ์ (เป็นยาฆ่าแมลงชนิดหนึ่งจัดอยู่ในกลุ่มออการ์โนฟอสเฟต) ในอัตรา  0.25 พีพีเอ็ม(0.025 กรัมต่อน้ำในตู้  100  ลิตร)  ปลาในตู้หรือในบ่อนาน 7 วัน และต้องแช่สารเคมีซ้ำอีก  3  ครั้ง  ห่างกันครั้งละ  7  วัน  รวมระยะเวลาในการรักษาประมาณ  1  เดือน
   
4.  โรคแบคทีเรีย
     ลักษณะอาการ  ปลาที่ป่วยจะมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอาการรวมกันคือ  มีแผลตกเลือดตามลำตัว  ครีบบริเวณท้อง  และช่องขับถ่าย  ตาของปลาอาจจะมีอาการบวมและตกเลือด  ท้องและลำตัวปลามีอาการบอบช้ำและมักจะพบอาการเกล็ดตั้ง หรือตัวด่าง
     สาเหตุของโรค  เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย  ได้แก่  เชื้อแอร์โรโทแนส ซูโดโมแนส  และคอรัมนาริส
     การรักษา  ใช้แช่ปลาที่เป็นโรคด้วยยาปฏิชีวนะ  ในอัตรา  10-20  พีพีเอ็ม(1-2 กรัม / น้ำ 100  ลิตร)  แช่นนาน  2  วัน  แล้วเปลี่ยนน้ำใหม่และแช่ยาซ้ำอีก  3-4 ครั้ง  สำหรับปลาที่มีอาการตัวด่าง  รักษาโดยการแช่ปลาด้วยด่างทับทิม 1-5 พีพีเอ็ม (1-5 กรัม / น้ำ 1,000  ลิตร) หรือเกลือ 0.5% (5 กก. / น้ำ 1,000 ลิตร)  นาน  3  วัน  และควรแช่ซ้ำอีก 2-3 ครั้ง
5.  โรคเชื้อรา    
      


  ลักษณะอาการ  ปลาที่ป่วยจากเชื้อราจะมีอาการอ่อนแอการเคลื่อนไหวลดลง  และบริเวณที่ติดเชื้อจะมีเส้นใยของเชื้อราปกคลุมมองเห็นได้ชัดเจน
     สาเหตุของโรค  เกิดจากเชื้อราหลายสกุลด้วยกัน  เช่น  Aphanomyces  และ  Achlya  เป็นต้น  และมักจะเกิดกับปลาที่บอบช้ำหรือมีแผล
     การรักษา  ให้แช่ปลาป่วยด้วยสารเคมีมาลาไคท์กรีนในอัตรา  0.1  พีพีเอ็ม หรือ 0.1 กรัมต่อน้ำในตู้ 1,000 ลิตร  แช่นาน 3 วัน  ต่อการรักษา 1 ครั้ง  ถ้าปลายังไม่หายป่วยให้รักษาซ้ำอีกครั้ง (มาลาไคท์กรียนเป็นสารอันตรายเวลาใช้ต้องระมัดระวังอย่าให้สัมผัสร่างกายผู้ใช้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น