เทคนิคการเพาะพันธุ์ปลา
การเพาะพันธุ์ปลาจะได้รับผลสำเร็จมากน้อยเพียงใด ขึ้นกับปัจจัยดังนี้
9.1 การคัดพ่อแม่พันธุ์ ปลาที่จะนำมาเพาะจะต้องเป็นปลาที่มีไข่แก่แล้วเท่านั้น คือมีรังไข่อยู่ในขั้นพักตัว (Resting Stage) มิใช่ว่าปลาที่มีการตั้งท้องทุกตัว(คือเห็นส่วนท้องขยายออก)จะนำมาใช้เพาะได้ทั้งหมด ผู้เพาะจะต้องรู้จักวิธีการคัดปลาที่มีไข่แก่พร้อมที่จะผสมพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะอาศัยดูจากติ่งเพศ ปลาที่มีไข่แก่จะมีการขยายตัวของติ่งเพศ และส่วนท้องขยายนิ่ม ทั้งนี้จะต้องขึ้นกับประสบการณ์ ความชำนาญ และความช่างสังเกตุของผู้เพาะพอสมควร
9.2 การเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลา เนื่องจากปลาสวยงามมักได้รับการเลี้ยงดูเอาใจใส่อย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีระบบกรองน้ำที่ดี ทำให้คุณภาพน้ำค่อนข้างดีอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อแยกปลาไปลงบ่อเพาะ น้ำใหม่ในบ่อเพาะจึงไม่สามารถกระตุ้นให้ปลาวางไข่ได้ เพราะสภาพน้ำในบ่อเลี้ยงและบ่อเพาะไม่มีความแตกต่างกัน ดังนั้นปลาที่จะเตรียมหรือเลี้ยงเพื่อเป็นพ่อแม่พันธุ์ไว้เพาะพันธุ์ ควรจะเลี้ยงไว้ในลักษณะที่คุณภาพน้ำไม่ดีมากนัก เช่น เปลี่ยนเครื่องกรองน้ำเป็นแบบ Box Filter ซึ่งพอช่วยกรองน้ำได้บ้างพร้อมเพิ่มออกซิเจนไปในตัว และงดการถ่ายน้ำก่อนการเพาะประมาณ 1 เดือน จะทำให้ปลามีความรู้สึกว่าสภาพน้ำในบ่อเลี้ยงไม่ดีนัก เพราะจะมีสารประกอบไนโตรเจนที่เกิดจากการหมักหมมและสิ่งขับถ่ายมากขึ้น เมื่อคัดปลาไปลงบ่อเพาะซึ่งเป็นน้ำใหม่มีคุณภาพดีกว่ามาก จะทำให้ปลามีความรู้สึกเหมือนกับการได้รับน้ำใหม่ในช่วงฤดูฝน จึงทำให้ปลาเกิดการวางไข่ได้อย่างง่ายดาย
9.3 วิธีการคัดพ่อแม่พันธุ์ ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ให้ปลามีความบอบช้ำน้อยที่สุด และควรงดให้อาหารปลา ก่อนการคัดประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการขยายตัวของท้องเนื่องจากปริมาณอาหารที่กินเข้าไป
9.4 การเตรียมบ่อเพาะ จะต้องให้มีความพร้อมที่ปลาต้องการในการวางไข่ให้มากที่สุด เช่น ปลาทอง ปลาคาร์พ ปลาเสือสุมาตรา ปลาเซเป้ ในธรรมชาติจะวางไข่บริเวณผิวน้ำ ในบ่อเพาะจึงควรเตรียมรังลอยใกล้ผิวน้ำ ปลาดุก ปลาแขยง ปลากด ในธรรมชาติจะวางไข่ตามบริเวณพื้นก้นบ่อ ในบ่อเพาะจึงควรเตรียมรังอยู่ก้นบ่อ นอกจากนั้นระดับน้ำในบ่อเพาะสำหรับการเพาะปลาสวยงาม ไม่ควรเกินกว่า 30 เซนติเมตร
9.5 การเพิ่มลม จะให้ลมแรงมากน้อยเพียงใดต้องดูจากพฤติกรรมการวางไข่ในธรรมชาติของปลาแต่ละชนิด ปลาที่ไข่ทิ้งโดยเฉพาะพวกที่มีไข่ครึ่งลอยครึ่งจมจะต้องการลมแรง มีการหมุนเวียนของน้ำยิ่งมากยิ่งดี แต่ปลาที่มีการจับคู่สร้างรังและมีการดูแลรักษาไข่ จะต้องการความสงบไม่ต้องการให้มีการไหลของน้ำ ควรเปิดลมเบาๆเพื่อเป็นการเพิ่มออกซิเจนเท่านั้น
9.6 การเพิ่มน้ำ หากสามารถทำน้ำไหลหรือทำฝนเทียมเลียนแบบธรรมชาติ ก็จะยิ่งทำให้ปลาวางไข่ได้ดีขึ้น และจะมีอัตราการผสมค่อนข้างดีด้วย เพราะการระบายน้ำจะช่วยไล่ความคาวหรือเมือกที่เกิดขึ้นในขณะที่ปลาวางไข่ออกไปด้วย
9.7 การเลือกใช้ฮอร์โมน ถ้าหากเป็นปลาที่จำเป็นต้องฉีดฮอร์โมนกระตุ้น ก็ควรเลือกชนิดฮอร์โมนให้เหมาะสม สำหรับปัจจุบันการใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์จะสะดวกและให้ผลดี นอกจากนั้นยังต้องเลือกวิธีการให้เหมาะสมด้วย ต้องศึกษาว่าปลาชนิดใดใช้วิธีการฉีดฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นการแพร่พันธุ์วางไข่ได้ และปลาชนิดใดจะฉีดฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นการตกไข่ เพื่อจะทำให้สามารถดำเนินการจัดเตรียมบ่อเพาะและอุปกรณ์ต่างๆได้ถูกต้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น